กลายเป็นเหตุวุ่นวายในงานศพหลังหญิงที่ทางโรงพยาบาลระบุว่าประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ได้ เคาะโลงศพ บอกญาติว่ายังไม่ตาย สุดท้ายตายจริง หลังอาการทรุดตัว เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม สำนักข่าว เมโทร ได้รายงานถึงเหตุอลหม่านที่เกิดขึ้นในประเทศเปรู ในระหว่างที่ครอบครัวของหญิงที่ชื่อว่า โรซ่า อิซาเบล เซสเปเดส คัลลาคา ได้มาร่วมพิธีงานศพของเธอในวันที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา หลังจากที่เธอประสบอุบัติเหตุบนท้องถนน
ซึ่งในระหว่างที่พวกเขากำลังแบกโลงศพของเธอนั้น
พวกเขาก็ได้ยินเสียงเคาะมาจากในโลง ซึ่งทางครอบครัวเปิดโลงออกมาก็พบว่าหญิงคนดังกล่าวยังมีชีวิตแต่อยู่ในสภาพอ่อนล้า ทางครอบครัวจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที อย่างไรก็ตามอาการของเธอแย่ลง และทำให้เธอเสียชีวิตในที่สุด
ด้านครอบครัวได้แสดงความไม่พอใจและตั้งคำถามกับทางโรงพยาบาลว่าเพราะเหตุใดจึงระบุว่าหญิงคนดังกล่าวเสียชีวิตแล้ว ซึ่งทางครอบครัวได้คาดเดาว่าผู้เสียชีวิตอยู่ในอาการโคม่า ทำให้ทางโรงพยาบาลเชื่อว่าเธอเสียชีวิตแล้ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าทำการสอบสวนทางโรงพยาบาลถึงเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว
อิสราเอล เดือดและเรียกร้องให้ทางรัสเซียออกมาขอโทษหลัง กล่าวหาว่า ฮิตเลอร์ เป็นชาว ยิว เพื่อโยงว่าเซเรนสกีที่เป็นชาวยิวสนับสนุนนาซี เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของอิสราเอลได้เชิญทูตรัสเซียให้เข้าอธิบายและเรียกร้องให้มีการขอโทษ หลังจากที่ทูตรัสเซีย ได้ออกมาอ้างว่า อดอล์ฟ ฮิตเลอร์ มีเลือดชาวยิว
พร้อมโยงว่าการที่ นาย โวโลดิเมียร์ เซเรนสกี ประธานาธิบดียูเครนที่เป็นชาวยิวนั้น ไม่ได้หมายความว่าผู้นำยูเครนจะสนับสนุนยูเครนไม่ได้ และได้กล่าวว่า บุคคลที่เหยียดและประพฤติไม่ดีกับชาวยิวนั้นมักจะเป็นชาวยิวด้วยกันเอง
ความเห็นดังกล่าวได้สร้างความไม่พอใจให้กับหลายฝ่ายเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะประเทศอิสราเอล ซึ่ง นาฟตาลี เบนเนตต์ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ได้กล่าวว่าสิ่งที่ทางรัสเซียพูดเป็นคำโกหก และเป็นกล่าวหาว่าเป็นฝีมือชาวยิวที่ก่อเหตุอาชญากรรมที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์
ขณะที่ ผู้นำยูเครน ได้กล่าวถึงข้อกล่าวหานี้ว่า เขารู้สึกพูดไม่ออกกับการกล่าวหาครั้งนี้ โดยทางรัสเซียไม่ได้ออกมาปฏิเสธ สิ่งเดียวที่เขาได้ยินคือความเงียบ
นับตั้งแต่การรุกรานประเทศยูเครนเริ่มขึ้น ทางรัสเซียพยายามหยิบยกว่าเป็นภารกิจปลดปล่อยชาวยูเครนจากกลุ่ม ‘นีโอ-นาซี’ ทั้งนี้หลายฝ่ายได้หยิบยกข้อโต้แย้งว่าตัวของ เซเรนสกี เองนั้นเป็นชาวยิว และไม่มีเหตุผลว่าทำไมชาวยิวถึงจะเลือกสนับสนุนนาซี ที่ได้ก่อเหตุสังหารชาวยิวไปกว่า 6 ล้านคนในสงครามโลกครั้งที่สอง
กู้ภัย พบ เรือท่องเที่ยวญี่ปุ่น จมอยู่ใต้คาบสมุทรใกล้ ฮอกไกโด หลังจมพร้อมผู้โดยสาร 26 คน
เจ้าหน้าที่พบ เรือท่องเที่ยวญี่ปุ่น จมอยู่ใต้คาบสมุทร ฮอกไกโด หลังเรือดังกล่าวล่มเมื่อวันอาทิตย์ เบื้องต้นยังไม่เจอผู้สูญหายอีก 12 ราย เมื่อวันที่ 29 เมษายน สำนักข่าว เคียวโด รายงานว่า เจ้าหน้าที่ชายฝั่งญี่ปุ่นพบเรือท่องเที่ยวที่หายปริศนาเมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่ผ่านมา โดยเจ้าหน้าที่พบเรือดังกล่าวอยู่ใต้คาบสมุทรใกล้กับจังหวัดฮ่องไกโดลึกราวๆ 100 เมตร และจุดที่พบเรือนั้นใกล้กับน้ำตก คาชูนิ ซึ่งเป็นจุดชมทิวทัศน์ยอดนิยม และยังเป็นจุดที่เรือลำดังกล่าวได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลืออีกด้วย
โดยในระหว่างเกิดเหตุนั้นมีผู้โดยสารและลูกเรือรวม 26 ชีวิต เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พบศพของนักท่องเที่ยวแล้ว 14 ศพ และยังมีผู้สูญหายอีก 12 ราย ย้อนกลับไปในวันเกิดเหตุนั้น เรือ คาซุ 1 ได้ร่องเรือแม้ว่าจะมีเตือนภัยถึงสภาพอากาศที่ย่ำแย่ โดยทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยรัสเซีย ซึ่งอยู่ใกล้บริเวณชายแดน ระบุว่า พวกเขาเห็นประชาชนลอยน้ำมาพร้อมกับเสื้อชูชีพ แต่พวกเขาไม่สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้เนื่องจากพายุที่โหมกระหน่ำ และทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถเห็นผู้ประสบภัยได้
ซึ่งทางผู้เชี่ยวชาญได้ความเห็นว่าโศกนาฎกรรมครั้งนี้เป็นเหตุที่เกิดขึ้นจากความผิดพลาดของมนุษย์ และชี้ว่าทางบริษัทไม่ควรจะอนุญาตให้เรือลำดังกล่าวจากฝั่งในสภาพอากาศแบบนี้
NATO ออกโรงเตือนทั่วโลกให้เตรียมตัว เพราะมีความเป็นไปได้ว่า สงครามรัสเซีย – ยูเครน อาจจะยืดเยื้อเป็นปี ชี้ในช่วงสัปดาห์ถัดจากนี้จะเป็นช่วงสำคัญ เมื่อวันที่ 29 เมษายน สำนักข่าว BBC รายงานถึงบทสัมภาษณ์ระหว่างทางสำนักข่าว และ นายเมอร์เคีย จีโออันนา รองเลขาธิการ องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ หรือ NATO ถึงสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ว่าทางตะวันตกอาจจะต้องเตรียมตัวหากสงครามยืดยื้น
โดยนาย จีโอนนา ระบุว่า มันเป็นเรื่องชัดเจนว่า ในช่วงวันหรือสัปดาห์ถัดจากนี้จะเป็นจุดสำคัญของสงคราม แต่มันก็มีความเป็นไปได้ว่าสงครามอาจจะยืดเยื้อกว่านั้น มันอาจจะใช้เวลาเป็นสัดปดาห์ เดือน หรือ ปีเลยก็ได้ ซึ่งความยืดเยื้อของสงครามก็มีหลายปัจจัย ซึ่งเขาหวังว่าจะเป็นฝ่ายยูเครนที่เป็นผู้กำชัยในสนามรบ
ก่อนหน้านี้ นาย อันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ได้ออกมายืนยันว่า เกิดเหตุขีปนาวุธยิงใส่ในกรุงเคียฟ เมืองหลวงของประเทศยูเครน ในขณะที่ตนกำลังลงพื้นที่และเข้าหารือกับนาย โวโลดิเมียร์ เซเรนสกี ประธานาธิบดียูเครน
โดยในระหว่างการเยี่ยมเยียนของนาย กูเตร์เรส นั้นได้เกิดระเบิดสองครั้งในกรุงเคียฟ ทำให้อาคารได้รับความเสียหายและเกิดเพลิงลุกไหม้ ซึ่งทางนายกเทศมนตรีของเมืองระบุว่า มีผู้ได้รับบาดเจ็บและถูกนำส่งโรงพยาบาล 3 ราย ทั้งนี้เชื่อว่ายังมีประชาชนบางส่วนที่ยังติดอยู่ในอาคาร
‘แอมเบอร์ เฮิร์ด’ คบ ‘อีลอน มัสก์’ เพราะหาคนคั่นเวลา หวังกลับไปคืนดี ‘จอห์นนี เดปป์’
เอเย้นต์ของ แอมเบอร์ เฮิร์ด ออกมาเปิดเผยว่าช่วงที่ดาราสาวคบกับ อีลอน มัสก์ นั้นเธอต้องการหาคนคั่นเวลาเฉยๆ พร้อมโอดคิดถึง จอห์นนี เดปป์ เมื่อวันที่ 28 เมษายน สำนักข่าว เดอะ การ์เดียน ได้รายงานถึงคดีฟ้องร้องหมิ่นประมาทระหว่าง จอห์นนี เดปป์ (Johnny Depp) และ แอมเบอร์ เฮิร์ด (Amber Heard) ที่ในขณะนี้เป็นประเด็นที่หลายจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
โดยในช่วงหนึ่งในการให้ปากคำนั้น คริสเตียน คาริโน ซึ่งเป็นเอเย้นต์ของทั้ง เฮิร์ด และ เดปป์ ได้กล่าวถึงช่วงเวลาที่ เฮิร์ด คบกับ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ผู้ก่อตั้งเทสลาและ Space X อภิมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของโลก รวมถึงเป็นแฟนเก่าของ แอมเบอร์ เฮิร์ด
ซึ่งนาย คาริโน ให้การว่าเขาและเฮิร์ดเคยเขียนข้อความคุยกันถึงการคบหา มัสก์ ว่าเธอแค่หาคนมาเติมเต็ม และเธอไม่ได้รัก มัสก์ เลย ซึ่งอภิมหาเศรษฐีคนดังกล่าวเป็นเพียงแค่คนคั่นเวลาของดาราสาวในขณะที่เธอหาทางคืนดีกับอดีตสามีของเธอ ซึ่งนายคาริโนยังให้การอีกด้วยว่า เฮิร์ด เคยบ่นว่า เธอคิดถึงเดปป์ เหมือนกัน
นอกจากนี้ คาริโน ยังยืนกรานว่าเขาไม่เคยเห็น เดปป์ ทำร้ายร่างกาย เฮิร์ด เลยด้วยซ้ำ หรือแม้แต่เห็นบาดแผลบนนักแสดงสาวก็ไม่เคย ในวันเดียวกันนั้น สหภาพเสรีภาพพลเมืองอเมริกัน หรือ ACLU ออกมาแฉว่า แอมเบอร์ เฮิร์ด ไม่ยอมจ่ายเงินตามที่เธอสัญญาเอาไว้ หลังจากที่เคยกล่าวหลังเลิกรากับ จอห์นนี เดปป์ ว่า เธอจะใช้เงินที่เธอได้จากการเลิกรากับดาราชาย ไปบริจาคให้กับ ACLU และ มูลนิธิโรงพยาบาลเด็กในลอสแองเจลิส
โดยทาง ACLU ระบุว่า เธอสัญญาว่าเธอจะจ่ายเงินราวๆ 120 ล้านบาท ให้กับทั้งสองมูลนิธิ แต่ทั้งสองมูลนิธิได้เงินเพียงแค่ราวๆ ครึ่งเดียวของจำนวนเงินที่เธอสัญญาเอาไว้เท่านั้น ซึ่งจำนวนดังกล่าวนั้นมาจากชื่อของ เฮิร์ด โดยตรงเพียงแค่ราวๆ 12 ล้านบาทเท่านั้น
ซึ่งทางมูลนิธิกล่าวว่านอกจากเงินที่ได้รับจาก เฮิร์ด โดยตรงแล้ว เขาได้รับเงิน ประมาณ 3 ล้านบาทจาก จอห์นนี เดปป์ และพวกเขาเชื่อว่า พวกเขาได้รับเงินราวๆ 17 ล้านบาท จาก อีลอน มัสก์ ที่ปฏิเสธจะขึ้นให้การ
ในการขึ้นศาลครั้งนี้ตัวของเดปป์ ยอมรับว่าเขาและอดีตภรรยาเคยทะเลาะกัน แต่ไม่มีครั้งไหนที่เขาลงมือทำร้ายร่างกายของ เฮิร์ด และเขายืนกรานด้วยว่า เขาไม่เคยทำร้ายผู้หญิงคนไหนในชีวิตของเขาเลยด้วยซ้ำ ในส่วนของประเด็นการใช้ยาเสพติดนั้น เดปป์ ระบุว่า เขาไม่ได้ใช้ยาเพื่อความสนุก แต่เขาใช้ยาเพื่อหลบหนีชีวิตที่ยุ่งเหยิงจากการถูกแม่ทำร้ายร่างกาย
รวมถึงยังมีการเล่าวินาทีที่ขี้บนเตียงอีกด้วย โดย เดปป์ กล่าวหาว่า เฮิร์ด หรือ เพื่อนของเธอขี้บนเตียงเขา หลังจากที่พวกเขามีปากเสียงกันภายในวันเกิดของเธอ
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป
